วัฒนธรรมฝรั่งเศส

วัฒนธรรมฝรั่งเศส ความเป็นมาของฝรั่งเศสที่น่าสนใจ ที่คุณอาจไม่รู้มาก่อน

วัฒนธรรมฝรั่งเศส กับเรื่องราว วัฒนธรรมแปลก ที่เกี่ยวกับพิธีกรรมการโยนเด็กมีอยู่จริงหรือไม่?

วัฒนธรรมฝรั่งเศส ในวัฒธนธรรมต่างประเทศ ที่จะมีอยู่ในทุกๆประเทศ ที่จะมีความแตกต่างกันไป แต่ในวัฒนธรรมแปลกๆ ที่หลายคนอาจไม่เชื่อว่า จะมีอยู่จริงบนโลกใบนี้ ซึ่งจะเป็นประเพณีโยนเด็ก ที่เป็นวัฒนธรรมอินเดีย ที่มีมาิย่างยาวนาน โดยจะมีเด็กที่ถูกจับโยน และเขย่าร่างกายในอากาศ ก็จะร้องไห้ด้วยความกลัว

และในการโยนเด็กนั้น จะใช้เด็กทารกที่มีอายุต่ำกว่า 2 ปี จะเป็นความเชื่อที่ว่า เมื่อเด็กทารกผู้นั้น ได้หล่นลงมาอยู่ในผ้าปู ก็จะทำให้เด็กคนนั้น มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และทำให้ครอบครัวของเขา มีความเจริญรุ่งเรือง และยังเป็นการแก้เคล็ด เนื่องจากในประเทศอินเดีย

เด็กทารกจะมีอัตราการเสียชีวิตสูง ซึ่งในพิธีกรรมโยนเด็ก ปฏิบัติกันมายาวนานถึง 700 ปี ในแต่ละปีนั่นก็จะมีทั้งชาวมุสลิม และฮินดูจำนวนมาก ที่มาเข้าร่วมพิธีกรรมนี้ แต่ได้มีนักเคลื่อนไหว ทางด้านสิทธิมนุษยชน ได้มองว่าเป็นพิธีกรรม ที่มีความป่าเถื่อน

จึงถูกจัดอันดับให้เป็น หนึ่งในวัฒนธรรมที่อันตราย สมควรยกเลิก ไม่ให้มีการทำพิธีป่าเถื่อนเช่นนี้อีก แต่ในปี 2554 ได้มีการกลับมาจัดพิธีกรรม ในการโยนเด็กขึ้นอีก ถึงแม้จะมีเสียงคัดค้าน แต่พวกเขาก็ถือว่า เป็นพิธีกรรมตามความเชื่อ ของโบราณในท้องถิ่น

ที่ยึดถือปฏิบัติกันมา ยาวนานหลายร้อยปี ด้วยความป่าเถือน จึงทำให้วัฒนธรมมนี้ เป็นวัฒนธรรมที่แปลก และมีความโหดร้ายมาก แต่ก็คงจะทำอะไรไม่ได้ เพราะมีมาอย่างยาวนาน ถ้าหากใครที่อยากดู ก็เดินทางไปดูได้ที่อินเดีย ที่จะจัดขึ้นในทุกๆปี

เรื่องราวของ วัฒนธรรมชื่อดัง ที่ถึงแม้จะมีความแปลกแต่ก็มีชื่อเสียงทั่วโลกจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไร?

สำหรับวัฒนธรรมชื่อดัง ที่คนทั่วโลกให้ความสนใจ ถึงแม้จะดูแปลกไปหน่อย แต่ก็มีชื่อเสียงอย่างมาก โดยจะเป็น เทศกาลไทปูซัม จะจัดขึ้นทุกวันที่พระจันทร์เต็มดวง ในช่วงของเดือน 10 ตามปฏิทินฮินดู โดยปกติจะอยู่ในช่วงจองเดือน มกราคมหรือกุมภาพันธ์ เป็นวัฒนธรรมชาวฮินดู และเทศกาลที่สำคัญ

ของชาวฮินดูในเชื้อสายทมิฬ จะเป็นเฉลิมฉลองยิ่งใหญ่ เพื่อเป็นการรำลึกถึง เทพมุรุกัน หรือ พระขันธกุมาร ซึ่งศาสนาฮินดูนั้นเป็นศาสนาที่ ได้มีการพัฒนาการมาจาก ศาสนาพราหมณ์ที่เป็นการนับถือ เทพเจ้าหลายองค์และแต่ละองค์นั้น จะแบ่งไปตามยุคตามสมัย ที่ก็จะมีบทบาทและตำนาน ที่มีความแตกต่างกัน

หรือที่คนไทยเรารู้จัก ก็คือพระพรหม พระศิวะ พระวิษณุ ที่เป็นเทพเจ้าสูงสุด ของฮินดู และในการเฉลิมฉลอง เทศกาลไทปูซัมนี้นั้น จะมีมากในอินเดียตอนใต้ โดยจะมีชาวฮินดูที่ เป็นเชื้อสายทมิฬอาศัยอยู่ โดยชาวฮินดูนได้ประกาศให้ เป็นวันหยุดราชการหลายๆรัฐ

และมีการจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ และในช่วงเทศกาล ก็จะมีผู้เข้าร่วมพิธีจำนวนมาก แต่จะต้องเตรียมจิตใจ ร่างกายและดวงวิญญาณ ให้มีพร้อมอย่างบริสุทธิ์ ซึ่งในแต่ละคนจะมีวิธีการที่ มีความแตกต่างกันไป โดยพวกเขาจะต้องแบก หรือจะต้องลาก กาวาดี

ที่จะทำมาจากไม้หรือโลหะ ซึ่งจะประดับด้วยรูปปั้นเทพเจ้า ที่ชาวฮินดูเคารพนับถือ และที่ขาดไม่ได้ก็คือ เทพมุรุกัน บนศีรษะของพวกเขา ก็จะทูนหม้อบรรจุนม ถือว่าเป็นวัฒนธรรม ที่มีชื่อเสียงอย่างมาก และมีมาอย่างยาวนาน

วัฒนธรรมฝรั่งเศส กับเรื่องของ วัฒนธรรมน่ากลัว ที่มีมาอย่างยาวนานของอินโดนีเซีย จะมีประวัติอย่างไร?

วัฒนธรรมคนตาย เชื่อว่าหลายคนต้องสงสัย ว่สมีนอยู่อยู่จริงหรือไม่ แต่ต้องบอกก่อนเลยว่า จะมีอยู่จริงแน่นนอน จะเป็นวัฒนธรรมที่เกี่ยวกับ คนตายและความเชื่อ ในเรื่องความตายนั่น ในปัจจุบันยังมีให้เห็นอยู่ โดยจะเป็นได้จาก ชาวโตราจา ที่เป็นวัฒนธรรมอินโดนีเซีย โดยจะมีประเพณีการขุดศพ ขึ้นมาจากหลุมศพในทุกๆ ปี

โดยในพิธีนี้จะเป็นการใช้ชีวิต ร่วมกับศพเหมือนตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่ไม่ได้มีเพียงแค่นี้เท่านั้น เพราะว่าจะต้องนำเสื้อผ้า ที่เป็นชุดใหม่เตรียมไว้ มาใส่ให้กับศพนั้นๆ และจะพาเดินรอบๆหมู่บ้าน ถึงแม้ว่าศพที่จุดขึ้นมานั้น จะอยู่มานานเป็นสิบๆปี พวกเขาก็จะขุดขึ้นมาทำพิธีกรรม เชืนนี้ในทุกๆปีโดยไม่มีจ้อแม้ และวัตถุประสงค์หลัก

ของการจัดพิธีกรรมนี้ ก็เพื่อที่จะนำศพขึ้นมาล้าง ในการทำความสะอาด และรวมถึงเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ และพาศพกลับมาเยี่ยมชม บ้านตัวเอง ซึ่งนั่น ก็จะหมายความว่าหากศพ ของคนในหมู่บ้านถูกฝัง อยู่นอกหมู่บ้านหรือที่อื่นก็ตาม พวกเขาก็จะต้องขุดศพนั้นขึ้นมา และพากลับมาทำพิธีที่หมู่บ้าน หรือบ้านเกิดของศพนั้นๆ

หรือเรียกได้ว่าอยู่กับศพจริงๆ แต่จะเป็นศพที่ว่านี้ ถูกทำในรูปแบบของมัมมี่ ที่ไม่เน่าไม่เปื่อย ซึ่งเป็นวัฒนธรรมในการ ใช้ชีวิตกับคนตายนั้น จึงทำให้มีความต่าสนใจ จากคนทั่วโลกก็ว่าได้ และมีหลายคนมองว่า เป็นประเพณีที่สุดแปลก และมีที่เดียวในโลกใบนี้

ที่ได้มีการขุดศพขึ้นมา เพื่อเปลี่ยนชุดใหม่ และพาศพกลับมาที่บ้าน ที่หลายคนอาจไม่เชื่อ แต่มีอยู่จริงแน่นอน หากใครที่อยากเห็น ก็ต้องไปดูที่อินโดนีเซียเท่านั้น ที่ประเทศอื่นไม่มี จะมีที่เดียวจากทั่วโลก กับวัฒนธรรมสุดน่ากลัว

วัฒนธรรมฝรั่งเศส

วัฒนธรรมน่าสนใจ หลายคนอาจไม่เชื่อว่ามีอยู่จริง เพราะด้วยความแปลกและสยองจนไม่มีว่าจะมีใครหาทำ

วัฒนธรรมน่าสนใจ ที่หลายคนไม่เคยรู้จัก จะเป็นวัฒนธรรมกินเถ้ากระดูกผู้ตาย หากมีการตายเกิดขึ้นในหมู่บ้านชาวยาโนมามิ ร่างและกระดูกของผู้ตายนั่น ที่ถูกเผาไหม้เป็นเถ้า ก็จะถูกนำมาปรุงเป็นซุป และจะนำมาแบ่งปันกันกิน กับคนในครอบครัวเครือญาติ และชาวเผ่าคนอื่นๆ ที่อาศัยอยู่ร่วมกันในชนเผ่า ซึ่งที่มาของวัฒนธรรม

ในการกินเถ้ากระดูกนี้ มีการสืบเนื่องมาจาก ความเชื่อของชาวยาโนมามิ ที่ว่าความตายนั้นไม่ได้เป็นสิ่งที่ เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ แต่เป็นผลจากพ่อมดหมอผี จากเผ่าที่พวกเขาเชื่อ จะส่งวิญญาณชั่วร้าย มารังควานเหยื่อในเผ่า เพื่อที่จะป้องกันไม่ให้ถูกผีร้าย ก็จะต้องรีบกำจัดร่างผู้ตาย ถ้าหากว่ามีคนตาย ชาวยาโนมามิก็จะทำการเผา

แทนที่จะเป็นการฝัง ที่จะต้องใช้เวลานาน กว่าศพผู้ตายจะย่อยสลาย แล้วนำเถ้ากระดูกของผู้ตาย มาแบ่งกันดื่มกินในเผ่า โดยจะเชื่อว่าเป็นการรักษา จิตวิญญาณของผู้ที่ตายไป ให้ยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างปลอดภัย และก่อนที่จะมีพิธีเผาศพ ร่างของผู้ตายจะต้องถูกนำไป วางไว้กลางที่ป่า จะเป็นบริเวณที่ใกล้กระท่อม

ที่เป็นที่อยู่ของหมอผี จะต้องทิ้งไว้ให้เน่าเปื่อยตามธรรมชาติ 30 ถึง 45 วัน แล้วค่อยเก็บร่างมาเผา แล้วเก็บเถ้ากระดูก มาผสมกับน้ำซุป ที่หมักขึ้นจากกล้วย โดยจะมีผู้คนในเผ่า มาล้อมวงชุมนุมพร้อมกัน และจะวนดื่มซุปที่ ได้ละลายมาจากเถ้ากระดูก ที่ถูกตักใส่ภาชนะที่ทำจากน้ำเต้า

ถือว่ามีความน่าสนใจ และมีความแปลกอย่างมาก แต่ในปัจจุบันหาดูได้ยาก ถือว่าเป็นหนึ่งในวัฒธนธรรม ที่มีความน่าสนใจ และมีความแปลกอย่างมาก จะมีเพียงแค่เฉพาะเผ่าเท่านั้น และเชื่อว่าหลายๆคน อาจไม่รู้ว่ามีอยู่จริง กับวัฒนธรรมกินกระดูกคนตาย

วัฒนธรรมฝรั่งเศส ดินแดนที่สวยงามที่มาพร้อมความลับที่หลายคนยังไม่เคยรู้มาก่อนและมีอยู่จริงแน่นอน

ในวัฒธรธรรมทั่วโลก จะมีความแตกต่างกัน ซึ่งหนึ่งในวัฒนธรรมที่น่าสนใจ จะเป็นวัฒนธรรมฝรั่งเศส โดยมีวัฒนธรรมการนอนกลางวัน โดยรวามแล้วจะคล้ายกับของ วัฒนธรรมอังกฤษ และวัฒนธรมขอฝอิตาลี ที่ไม่สามารถแบ่งได้ชัดเจน ซึ่งวัฒนธรรมฝรั่งเศส จะมีอยู่หลายๆอย่าง ไม่ว่าจะเป็น การกล่าวทักทายว่า บงชู Bonjour

ที่หมายถึงสวัสดีตอนเช้า หรือบงซัว Bonsoir ซึ่งจะหมายถึง สวัสดีตอนเย็น จะมีการกล่าวลาก็ต่อเมื่อ จะจากไปด้วยคำว่า โอ เครอ วัว Au revoir โดยมีความหมายว่า ลาก่อน และจะกล่าวขอบคุณว่า แม็กซิ Merci และในวิธีทักทายสำหรับ คนที่รู้จักกันนั้นก็คือ จะเป็นการแลกจูบแก้ม ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย ตามงานพิธีต่างๆ

ชาวฝรั่งเศสก็ใช้วิธี ในชนแก้มกันทั้งสองข้าง ซึ่งชาวปารีสจะนิยมแนบแก้ม กันถึง 4 ครั้ง ถ้าหากว่าเป็นเมืองนอกเขตปารีส ก็จะทำเพียงแค่ 2 ครั้ง ถ้าหากว่าไปรับประทานอาหาร ตามภัตราคารต่างๆ ย่าตะโกนเรียกบริกรว่า การ์ซ็อง garçon ซึ่งตรงกับภาษาอังกฤษที่ว่า boy

เพราะในภาษาฝรั่งเศส ถือว่าไม่เป็นคำสุภาพ และควรเรียกว่าเมอซิเออร์ และกล่าวคำว่า ซิล วู เปล ที่มีความหมายว่ากรุณา และสนามหญ้าในฝรั่งเศส จะมีไว้ให้ดูและชื่นชม ห้ามใครแตะต้องเด็ดขาด ยกเว้นตามสนามหญ้า ที่ได้เปิดเป็นสาธารณะ ถ้าหากว่ามีการละเมิดกฏ ถือว่าทำผิดกฏหมาย

วัฒนธรรมทั่วโลก

ฉากหนัง ยอดฮิต

อนิเมะ2020

เที่ยวเมืองอังกฤษ

วัฒนธรรมแปลก

วัฒนธรรมฝรั่งเศส